ABOUT US
หจก.เอ็ม.ดี.แมชชีนเนอรี่ แอนด์ ซัพพลาย
ดำเนินธุรกิจด้านเครื่องจักรในวงการพิมพ์ ด้วยประสบการณ์มากกว่า 20 ปี พร้อมด้วยความรู้ความชำนาญด้านการพิมพ์และเครื่องจักรอย่างยาวนาน เราคือผู้แทนจำหน่ายเครื่องจักรในวงการพิมพ์ เครื่องพิมพ์ไฮเดลเบิร์ก เครื่องเก็บเย็บอัตโนมัติ เครื่องพับ เครื่องปั้ม เครื่องตัดโพลาร์ ระบบลูกน้ำอัตโนมัติKOMPAC อะไหล่เครื่องพิมพ์ หมึกพิมพ์ออฟเซ็ท หมึกพิมพ์ระบบ UV และอุปกรณ์การพิมพ์ อย่างครบวงจร
กว่าจะเป็น หจก.เอ็ม.ดี.แมชชีนเนอรี่ แอนด์ ซัพพลาย
คุณสุรพันธ์ เล่าความทรงจำเก่าๆให้เราฟังว่า เริ่มเข้าสู่อาชีพงานพิมพ์ เมื่ออายุ 13 ปี ที่โรงพิมพ์ประชาช่าง (แถวตลาดน้อย) ตำแหน่งแรก คือ ช่างยกกระดาษป้อนเข้าเครื่องพิมพ์มือป้อน ระบบออฟเซ็ท HAMADA ทำอยู่ประมาณ 1 ปี หลังจากนั้น จึงได้เลื่อนตำแหน่งเป็นช่างพิมพ์มือสองเต็มตัว โดยเริ่มจากเครื่องพิมพ์ HEIDELBERG ลูกผสม ซึ่งขณะที่เป็นช่างพิมพ์นั้น ได้พบปัญหามากมาย เช่น ในการที่จะเรียนรู้วิชาการพิมพ์ เราต้องมีความมานะอย่างสูง ต้องรู้จักซักถาม รู้จักสังเกตจากช่างพิมพ์รุ่นพี่ หรือ ช่างเก่าแก่ที่ทำมานานกว่า และต้องศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง
เพราะสมัยนั้นวิชาการพิมพ์จะเป็นความลับมาก สำหรับช่างพิมพ์ และแหล่งที่จะศึกษาได้สมัยก่อนนั้นคือ อาศัยดูหนังสือต่างๆ ตามแผงขายหนังสือพิมพ์ และสิ่งพิมพ์ต่างๆ ที่ส่งมาจากต่างประเทศ เช่น ปฏิทิน 5-6 สี และ นิตยสารต่างๆ เพื่อศึกษาดูความเงางาม และความเนียนของเม็ดสกรีน ว่ามีเทคนิคการพิมพ์อย่างไรจึงจะดูสวย และมีมิติของภาพพิมพ์นั้นๆ อีกทั้งยังต้องมีความละเอียด ในการใช้หมึกพิมพ์ ซึ่งสมัยก่อนแรกเริ่ม การพิมพ์หมึกออฟเซ็ท จะต้องพิมพ์สีเหลืองก่อนเป็นสีแรก และจะต้องรู้จักเลือกเฉดสี โทนสี ที่จะทำให้ภาพพิมพ์นั้น ดูสมจริง เพราะหมึกพิมพ์แต่ละแบรนด์ ก็จะให้เฉดสี โทนสีที่แตกต่างกันออกไป ยกตัวอย่างเช่น สีเหลืองของบางแบรนด์จะออก อมเขียวมะนาว บางแบรนด์จะให้สีเหลืองกลาง หรือ อมสีแดง บางแบรนด์อมสีชมพู หรือ สีฟ้า เป็นต้น
นอกจากนั้น หมึกพิมพ์สีเหลืองของบางแบรนด์ยังมีการผสมเฉดสะท้อนแสงอยู่ด้วย เพราะฉะนั้น คุณภาพงานพิมพ์จึงขึ้นอยู่กับความสามารถ และการเลือกใช้หมึก ของช่างพิมพ์เป็นอย่างมาก เพื่อให้ได้งานพิมพ์ที่ได้มาตรฐาน เทียบเท่าต่างประเทศ ซึ่งสถานการณ์เหล่านี้ ได้เกิดขึ้นเมื่อ 40-50 ปีที่แล้ว ซึ่งแตกต่างจากปัจจุบันมาก ที่มีการแยกสีภาพพิมพ์ที่ทันสมัยขึ้น และเครื่องพิมพ์ก็ได้ปรับเปลี่ยนระบบการพิมพ์ให้ทันสมัยมากขึ้น ทำให้คุณภาพสิ่งพิมพ์ในเมืองไทย มีมาตรฐานทัดเทียมกับต่างประเทศ โดยเปรียบเทียบเทียบกับประเทศต่างๆ ในภาคพื้นเอเชีย หรือประเทศในแถบยุโรปบางประเทศ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับวัสดุอุปกรณ์ที่เลือกใช้ในการพิมพ์ เพราะเครื่องพิมพ ์ในด้านการผลิตนั้นมีคุณภาพในระดับเดียวกันอยู่แล้ว ความสามารถ และคุณภาพของคนไทยเอง ก็ไม่เป็นรองชาติอื่นๆ เพียงแต่ต้องมีการปรับปรุงบ้างในด้านทักษะ บางประเภท ดังนั้นโดยภาพรวมแล้ว วงการพิมพ์ของบ้านเราก็มีศักยภาพที่ดี ในการแข่งขันกับชาติอื่นๆได้”